วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557

PAPAZIN EVI BISTROCAFE

 PAPAZIN EVI BISTROCAFE

ตั้งอยู่ที่  kirklareli  Turkey


        เป็นร้านอาหารที่บูรณะจากบ้านบาทหลวงเดิมซึ่งถูกทิ้งร้าง 135 ปี
ตั้งอยู่ในเขตย่านประว้ติศาสตร์ Kirklareli  โดยรอบๆ ที่นี่อาคารหลายหลัง
ได้ถูกบูรณะเพราะมีความสำคัญทางด้านมรดกวัฒนธรรม 



ป้ายชื่อร้านหน้าทางเข้า


ตัวอาคารด้านหน้าดัดแปลงจากบ้านอายุประมาณ 130 กว่าปี

บรรยากาศการจัดร้านภายในอาคารช่วงที่ไปเช้ามากเลยยังไม่ค่อยมีลูกค้า

ด้านข้างอาคาร

ใต้ถุนอาคารซึ่งแต่เดิมที่นี่ใช้เพื่อเป็นคอกสัตว์

สวนด้านนอกอาคาร

บันไดทางขึ้นไปยังตัวอาคาร




บริเวณภายนอกอาคาร




























วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เตอร์กิชดีไลต์ (Turkish Delight)" 

หรือเรียกในภาษาตุรกีว่า “โลคุม (Lokum)


Turkish  Delight   http://www.hdwallpapersimages.com/turkish-delight/10161/



















     ต้องบอกเลยว่าขนมชนิดนี้ นั้นหวานมาก เหมาะกับทานคู่กับชาตุรกี
ถ้าใครคิดจะทานเดี่ยว  อาจจะไม่เหมาะนัก  ที่ตุรกีขนมนี้คล้ายเป็น
ขนมสำหรับซื้อกันติดไม้ติดมือเป็นของฝากเวลาเราไปเยี่ยมหาญาติ
หรือในโอกาสสำคัญๆ  ร้านขายขนมนี้สามารถหาซื้อได้ง่าย ไม่ว่า
จะอยู่ที่ไหน

Turkish Tea    http://www.fazturkey.com/show/260/turkish-tea.aspx













ประวัติ

       ขนมตุรกิชดีไลท์ คิดขึ้นโดย  Haci Bekir  หลังจากที่เค้าได้เดินทาง
จากบ้านเกิด Kastamonu ไปยังอิสตันบูเพื่อเปิดร้านทำขนมในอำเภอ
Bahçekapı ในปี คศ 1777 ปัจจุบัน Haci Bekier ยังคงเปิดดำเนินการ


ร้าน Haci Bekir  http://sirkecirestaurants.com/haci-bekir-the-1777-candy-revolution/

       













          ขนมหวานชนิดนี้ในช่วงแรกทำจาก แป้ง น้ำ น้ำผึ้งและกากน้ำตาล
ใช้เปลือกมะนาวและส้มในการเพิ่มรสชาติ มีสีแดง, สีเหลืองและสีเขียว
ในปี คศ 1811 ได้ใช้กลูโคสเป็นสารให้ความหวาน

       ปัจจุบันมีการผสม วอลนัทสับ, เฮเซลนัท, เมล็ดถั่วพิสตาชิโอ,
 แอปริคอทแห้ง  รสชาติก็เพิ่มความหลากหลายขึ้นด้วยอบเชย ขิง
นอกจากการคลุกด้วยน้ำตาลแล้วก็ยังมีการใช้มะพร้าว หรือถั่วบดละเอียด

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ใบรับรองโสด

ใบรับรองโสด 

           ใบรับรองโสดคืออะไร ???   ใบรับรองโสดคือใบที่แสดงสถานภาพการสมรส
ไม่ว่าจะเป็นการรับรองโสดไม่เคยแต่งงาน หรือจะเป็นการรับรองโสดหลังการหย่าร้าง

สิ่งที่ต้องนำไปด้วย
   1. บัตรประชาชน ทะเบียน บ้าน ตัวจริง  และ สำเนา  1 ชุด
   2. พยาน 2 คน บัตรประชาชนตัวจริง  สำนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน 1 ชุุด
   3.  ค่าเอกสาร 50 บาท


       เนื่องจากว่าเรามีทะเบียนบ้านอยุ่ในอำเภอเมือง จ.นนทบุรี  ต้องไปทำเอกสาร
ที่ว่าการอำเภอเมืองนนทบุรีอยู่แถวรัตนาธิเบศ  ต้องเตรียมพยานไปด้วย 2 คน
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่จะให้เอกสาร มาทั้งหมด 4 ใบด้วยกัน

   1   ใบแรก สำหรับให้คนที่ทำเรื่องยื่นกรอกสถานภาพการสมรสของตัวเอง
         เช่น ยังไม่เคยแต่งงาน หรือ แต่งงานแล้วหย่า

    2  ใบที่สอง อันนี้รับรอบความสัมพันธ์เรากับพยาน 2 คน แล้วก็รายละเอียดของ
        เราและพยาน ตรงสวนนี้ จะกรอกข้อมูล ชื่อ อายุ เลขที่บัตรประชาชน
        ความสัมพันธ์

    3  ใบที่สาม และ ใบที่สี่ สำหรับพยาน 2 คนกรอกข้อมูล  ชื่อ อายุ เลขที่บัตรประชาชน
         ความสัมพันธ์กับเจ้าของใบรับรองโสด

      เมื่อเรากรอกเอกสารทั้งหมดนำส่งเจ้าหน้าที่    เจ้าหน้าที่ก็จะกรอกข้อมูลลงไป แล้วพิมพ์เป็น
เอกสารออกมา 2 ชุดคือต้นฉบับ และคู่ต้นฉบับวมเอกสารที่เรากรอก  โดยเราต้องนำเอกสาร
ไปคุยกับทางปลัดอำเภอเพื่อให้เค้าลงนามในเอกสาร  ก็จะมีการสอบถามว่าเราเคยแต่งงานมา
หรือเปล่า แล้วก็พูดคุย รายละเอียดเล็กๆ น้อย ๆ ส่วนอายุเอกสารได้สอบถาม ว่ามีอายุกี่เดือน
( ปลัดตอบว่า ไม่รู้เพราะได้แต่ออกไม่เคยได้ใช้ ก็จริงของท่านนะค่ะ)  สำหรับอายุของเอกสาร
ได้หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ทมาให้ เอกสารนี้มีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ออกเอกสาร หลังจากที่
นั้นเราก็นำไปคืนเจ้าหน้าที่  เจ้าหน้าที่จะให้ต้นฉบับเรามา 1 ใบ ส่วนคู่ต้นฉบับและเอกสารที่อื่นๆ
เจ้าหน้าที่เป็นผู้เก็บไว้  รวมระยะเวลาการทำเอกสาร ประมาณ 15 นาที ( ช่วงที่ไปคนใช้บริการน้อย)

ตัวอย่างใบรับรองโสด

วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กุหลาบสีดำ แห่ง Halfeti , Turkey


http://naturalgarden.org/the-black-rose/4/

http://www.allmystery.de/themen/tp64310-1


         ดอกกุหลาบสีดำนี้นั้นไม่ใช่ภาพแต่งจากโปรแกรมใดๆทั้งสิ้น  ซึ่งจากรูปลักษณ์ภายนอกนั้น
ดูเหมือนดอกกุหลาบทั่วๆไป แต่สีของกุหลาบนั้นจัดว่าเป็นสิ่งที่พิเศษเพราะเป็นสีดำตามธรรมชาติ
เนื่องจากว่า Halfeti นั้นเป็นอำเภอเล็กๆ  บนฝังตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส (Euphrates)
ทำให้สภาพของดินมีความเป็นกรดด่างที่เหมาะสมทำให้กุหลาบมีสีดำ


   

        Halfeti, Şanlıurfa Province in Turkey

http://forum.kusadasi.biz/threads/halfeti-%C5%9Eanl%C4%B1urfa-province-in-turkey.12183/



        ถึงแม้ว่าเป็นดอกกุหลาบที่เราเห็นนั้นจะเป็นสีดำแต่ในฤดูใบไม้ผลิดอกกุหลาบเหล่านี้จะออกดอกเป็นสีแดงเข้ม    และเมื่อฤดูร้อนมาถึงดอกกุหลาบจะกลายเป็นสีดำ  แต่น่าเสียดายว่ากุหลาบเหล่านี้
กำลังไก้ลจะสูญพันธ์เพราะในปี ค.ศ.1990 มีการสร้างเขื่อนทำให้พื้นที่สวนใหญของ  Halfeti นั้นจมอยู่ใต้น้ำ   ชาวบ้านต้องย้ายที่อยู่อาศัยห่างจากที่เก่าไปอีกราว 10 กิโลเมตร โดยพวกเค้าได้ปลูกดอกกุหลาบ
สีดำที่สวนแห่งใหม่นี้  แต่ผลผลิตที่ได้นั้นกลับน้อยลง  เจ้าหน้าที่พยายามที่จะอนุรักษ์โดยเก็บเมล็ดพันธ์
และนำไปปลูกในสภาพแวดล้อมเดิมที่เรือนกระจก  ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มฃผลผลิตของกุหลาบได้เพียงเล็กน้อย



แหล่งที่มา http://www.odditycentral.com/pics/the-stunningly-beautiful-black-roses-of-halfeti.html

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประตูนรกเทพเจ้าพลูโต ( PLUTO'S GATE)


          เมือวันที่ 3 มีนาคม  2556 ได้มีการค้นพบ ประตูนรกเทพพลูโตตามตำนานกรีก ที่ นครโบราณเฮราโพลิส ณ เมืองปามัคเล่ ประเทศตุรกีโดยผู้ที่ค้นพบ เป็นนักโบราณคดี ชาวอิตตาลี    Francesco D'Andria   ซี่งเค้าเชื่อว่า ที่นี่เป็นประตูนรกเทพพลูโตตามตำนานกรีกที่กล่าวถึง เพราะที่นี้มีลักษณะสอดคล้องกับบึนทึก ของ นักภูมิศาสตร์ชาวกรีก  สตาร์โบ ( Strabo ก่อน ศ.ศ. 64/63) ได้บันทึกไว้ว่า  "เมือโยนนกกระจอกเข้าไปทันที่ที่สุดอากาศเข้าพวกมันก็ร่วงลงมา"  นอกจากนี้ ยังมีเสาที่แกะสลักแบบ     กรีกโรมันต้นหนึ่งแกะสลักเกี่ยวกับเทพเจ้าพลูโต
เสาหินกรีกโรมัน ที่สลักเกียวกับเทพเจ้าพลูโต
                  สถานที่นี้นั้นเต็มไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  โดยจะเห็นว่ามีนกและสัตว์มีชีวิตเล็กๆ นอนตายเพราะได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป
    
          ตามตำนานที่นี้ใช้เพื่อทำพิธีกรรมในการติดต่อกับวิญญาณ  ผู้คนที่มาทำพิธีที่นี้ สามารถเห็นนิมิตได้ ซึ่งสาเหตุนั่นอาจจะเกิดจากการ สูดดมก๊าซเข้าไปไปในปริมาณมาก (อันตรายของการสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  จะมีการระคายเคือง ปวศรีษะ  เซื่องซึม สั่นกระตุก หายใจติดขัด หมดสติไม่รู้สึกตัว หัวใจเต้นผิดปกติ เนื่อง จากมีฮีโมโกลบินน้อยกว่าปกติ และมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางและอาจทำให้เสียชีวิตได้)

         
ซากนกที่ตายเนื่องจากได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป
บริเวณ pluto's gate



ขันบันไดวิหารที่เชื่อกันว่าใช้นั่งสำหรับเหล่าผุ้ที่มาร่วมงานพิธี
        

         สำหรับนครนครโบราณเฮราโพลิสสร้างขึ้นเมื่อราวปี 190 ก่อนคริสต์ศักราช โดยยูเมเนส ที่ 2 กษัตริย์แห่งเปอร์กามุม ต่อมาพวกโรมันได้เข้ายึดครองในปี 133 ก่อนค.ศ. ในยุคโรมันนั้น เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองมาก มีวิหาร โรงละคร ผู้คนหลั่งไหลไปแช่น้ำร้อนซึ่งเชื่อว่ารักษาโรคได้

ภาพใช้โปรแกรมในการจำลองสถานที่




 แหล่งที่มา : http://news.voicetv.co.th





เทพเจ้าพลูโตหรือเฮดีส Hades (Greek)  Pluto (Roman)

               เทพเจ้าพลูโต หรืออีกชื่อหนึงเรียกรู้จักกันในนามเฮเดส ป็นโอรสของเทพโครนัส (Cronus) และ เทพีรีอา (Rhea) เป็นพี่น้องกับเทพเจ้าซูส และโพโซดอน ปกครองอยู่ยมโลก เลยได้ขื่อว่าเทพเจ้าแห่งความตายและด้วยความที่อยู่ใต้ดินผู้คนจึงเรียกว่า เทพแห่งทรัพย์ด้วย เพราะเค้าถือกันว่า ทรัพย์สิน เช่น ทองและเงินนั้นล้วนขุดขึ้นมาจากใต้ดินนั่นเอง ทพเจ้าพลูโตนั้นเป็นเทพที่มีความยุติธรรมอย่างมาก ซึ่งตัดสินความดี - ความชั่วของคนตาย


เทพเจ้าพลูโต และ สุนัขสามหัว เซอเบอรัส  ที่เฝ้าประตูยมโลก

 ความเชื่อโลกหลังความตายกรีก-โรมันโบราณ

                ตามความเชื่อของกรีกและโรมันโบราณ คือเมื่อคนคนหนึ่งได้ตายไป จะต้องผ่านแม่น้ำสติกซ์ ( styx) โดยวิธีการที่จะข้ามผ่านไปได้ นั่่นก็คือการนั่งเรือพายข้ามผ่านแม่น้ำนี่ไป ( โดยหนังหลายเรืองที่เกี่ยวกับตำนานเราอาจจะพอผ่านตากับฉากนี้ไปบ้าง)โดยผู้ที่พายเรือนี้มีชื่อว่า  Charon 
โดยผู้ตายจ่ายเป็นเหรียญทอง 1 เหรียญ เรียกว่า  ดานาเก้ หรือ นูลอน ให้เป็นค่าจ้าง ซึ่งเหรียญนี้จะได้มาจาก เมื่อมีคนตายไป ทางญาติจะใส่เหรียญทองนี้ไว้ที่ปากของผู้ตาย(น่าจะคล้ายๆ กับของไทยเรื่องเงินปากผี ) ว่ากันว่าสำหรับคนตายที่ไม่มีญาติทำศพให้จะต้องรอจนครบ 100 ปีถึงจะสามารถนั่งเรือฟรี เพื่อไปตัดสินความผิดของตนได้



charon ขณะนำเหรียญทองออกจากปากวิญญาณเพือเป็นค่าจ้างพายข้ามแม่น้ำสติกซ์


               เมื่อข้ามผ่านแม่น้ำมาแล้ว สิ่งแรกที่ต้องเจอก็คือประตูที่มีสุนัขสามหัว เซอร์เบอรัส  (cerberus  อังกฤษ หรือ เคอร์เบอรอส (Kerberos กรีก ) แปลว่า ปีศาจในหลุม เฝ้าอยู่ โดยคนที่ตายไปแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถผ่านประตูนี่ไปได้ แต่ก็ไม่สามารถกลับออกมาได้อีกเช่นกัน  ซึ่งจุดหมายปลายทางของคนตายก็คือ การพิจารณาตัดสินโทษ และคุณงามความดีนั่นเอง  โดยผู้ตัดสินโทษ คือ Rhadamanthus , Minos และ Aeacus


Rhadamanthus , Minos และ Aeacus

                  สำหรับคนที่ทำความผิด บาปนั้นจะถูกส่งไปยัง  Tartarus  ( ทาร์ทารัส แปลว่าสถานที่ลึก) เป็นดินแดนเอาไว้คุมขังและทรมาน สำหรับคนที่ทำบาปและสำหรับคนทำความดีนั้นก็จะได้มีความสุข และสุขสบายชัวนิรันด์ที่ อีลิเซียม (Elysium)  และสำหรับวิญญาณที่ไม่มีความดี และความเลวนั้นจะถูกส่งไปอยู่ที่ทุ่งแอฟโฟเดียน

วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

300

สำหรับคนที่เคยดูหนัง  300 ตอนนี้กำลังจะกลับมาแล้วอีกครั้ง 




        หนังเรื่องนี้ อิงข้อมูลมาจากจากประวัติศาสตร์เมื่อ 481 ปีก่อน ค ศ โดยเนื้อหาของหนังได้กล่าวถึงความกล้าหาญของทหารชาวสปาร์ตา  300 นาย   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกองทัพเปอร์เซีย ซึงนำโดยกษัตริย์เซอร์ซิสได้ยกพลจำนวนหลายแสนคนเพื่อมาทำสงครามกับกรีก ผ่านมาทางมาซิโดเนีย   ด้วยเหตุการณ์นี้เองทำให้รัฐต่างๆ ต้องจับมือกันเพื่อผนึกกองกำลังในการต่อต้านชาวเปอร์เซีย

         สำหรับชาวสปาร์ตา กับชาวเอเธน นั้นต่างก็ไม่ค่อยจะชอบพอซึ่งกันเท่าไหร่  เพราะเมื่อครั้งที่ชาวเปอร์เซียเข้ามาทำสงครามครั้งแรกนั้น นำโดยกษัตริย์ดาริอุส ( เป็นพระบิดาของกษัตริย์เซอร์ซิล)  ชาวเอเธนนั้น ได้ส่งพลนำสารมาจากเมืองมาราธอน ขอกำลังจากทางสปาร์ตาเพื่อให้ไปช่วยในศึกครั้งนี้ แต่เนืองจากขณะนั้นตรงกับเทศกาลคาเนียน ทางสปาร์ตาจึงแจ้งว่าไม่สามารถส่งกองกำลังไปช่วยได้       แต่ในที่สุดชาวเอเธนก็ชนะในศึก และได้การชื่นชมจากสาธารณรัฐอื่น  จากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการวิ่งมาราธอนขึ้น  ( แต่เรืองเล่านี้มันก็ยังมีข้อขัดแย้งกันอยู่)


               เทศกาลคาร์เนียน  เป็นเทศกาลเพื่อบูชาเทพเจ้าอะพอลโล่ (เทพเจ้าแห่งดวงอาทิย์ ) เทศกาลนี้ ชาวสปาร์ตาจะเฉลิมฉลองเทศกาลภายในบ้านไม่ออกรบหรือทำสงครามใดๆทั้งสิ้น

เทพอพอลโล่


         กลับมาเข้าเรื่องราวของหนังของเราต่อนะคะ   เมื่อกองกำลังจากทางเปอร์เซียยกพลเข้ามายัง
กรีกทำให้ทางเอเธน  สปาตันและนครนครรัฐอื่นๆ ต้้งกองกำลังแบบผสมขึ้นมาเพื่อรวมต่อกันต่อสู้กับ
ทหารชาวเปอร์เซีย  ซึ่งกองกำลังที่จัดตั้งนี้ จัดตั้งกันอย่างเร่งด่วนและไม่ได้เตรียมการมาก่อน ทำให้
มีจำนวนทหารที่เข้ารวมไม่มาก  เมื่อเทียบกับทหารของเปอรร์เซีย

            โดยจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่หนังได้กล่าวถึง ก็คือ ช่องเขา “เทอร์โมพีเลีย” (Thermopylae)
โดยผู้นำทัพทหารสปาร์ตา ก็คือกษัตริย์“เลโอไนดาสที่ 1” (Leonidas I)   ถึงแม้ว่ากองกำลังเปอร์เซีย
จะมีมากกว่ากันหลายเท่า แต่ด้วยว่า พื่นที่นั้นเป็นทางแคบ ทำให้กองกำลังที่เข้าไปนั้นถูกบีบ และง่ายต่อการถูกโจมตี  และด้วยที่ว่าชาวสปาร์ตาทุกคนนั้นถูกฝึกให้รู้จักการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ก็ทำให้มีฝีมือทางด้านการรบ


http://en.wikipedia.org/wiki/File:Leonidas_I_of_Sparta.jpg
King  Leonidas I  


            ในที่สุดกองทัพสปาตันก็พ่ายแพ้ให้กับทางกองทัพเปอร์เซีย เพราะถึงแม้ว่าจะเก่งเพียงใด
แต่ด้วยกองกำลังที่มีไม่มากก็ทำให้กองกำลัง 300 นายต้องเสียชิวิต  ณ ที่นี้นั้นเอง หลังจากนั้นกองทัพชาวเปอร์เซียได้ผ่านทางช่องเขานี้เข้าไปตีนครเอเธน และนครอื่นๆ อีก

          และหลังจากนี้ กรีก จะเป็นยังไงต่อไปก็คงจะต้องติดตามชมกันต่อในภาคที่จะมาในเร็วๆ นี้



http://www.squidoo.com/the-300-spartans-of-thermopylae


กรีกโบราณในสมัยก่อนมีปกครองแบบสาธารณรัฐ
มีรัฐหลายแห่งมารวมตัวกัน  เช่น เอเธน, สปาร์ตาร,  ทีบิส, คอรินธ์,  ไมลิตัส,  เมการา และรัฐอื่นๆ

                 โดยหนังเรืองนี้ กล่าวถึงชาวสปาร์ตา  ซึ่งมีเชื้อสายมาจากชาวดอเรียน ( dorians)
ตั้งอยุ่ในแคว้น Laconia  บนแหลม พิโลพอเนซัส  ซึ่งเกิดมาเพื่อเป็นนักรบ โดยจากในหนังเราจะเห็นว่า
มีการคัดกรองกันตังแต่เด็ก โดยเด็กที่เกิดมาไม่สมบุรณ์ก็จะถูกทำลายทิ้ง และสำหรับเด็กผู้ชายเมื่อ
ครบอายุ7 ปี ก็จะต้องจากครอบครัวเพือไปฝึการต่อสุู้

                สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะเนื่องจากสปาร์ตาจัดเป็นรัฐที่เป็นการปกครองแบบทหาร สำหรับคนที่เคยดูหนัง จะจำกันได้ดีในตอนหนึงที่กษัตริย์เลโอไนดาส ถามทหารฝ่ายพันธมิตรว่าทำอาชีพอะไรมา หลายคนก็ตอบว่าทำอาชีพ อื่นๆ มาที่ไม่ใช่ทหาร แต่สำหรับชายชาวสปาร์ตาทุกคนล้วนเกิดมาเพื่อเป็นทหาร   ( ถ้าใครทีได้ดุหนังคงไม่แปลกใจที่ ชาวสปาร์ตา 300 คนจะสู้สมชายชาติทหารและ สำหรับคนที่ชอบกล้ามซิตแพคก็คงจะปลื้มไม่น้อย เพราะเค้าจัดเต็มกันจริงๆ เลย 555)

http://hqwalls.org/view-300_wallpaper_hd_wide_2-1920x1080.html




การปกครองของสปาร์ตา แบ่ง ออกเป็น 4 ส่วน

1. กษัตริย (The King)  เป็นผู้นำทางศาสนาและเป็นแม่ทัพในการรบ
2. สภาที่ปรึกษา (The Council)  เป็นบุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและตุลาการ
     สภาราษร
3. สมัชชาประชาชน เป็นบุคคลที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ทำหน้าที่พิจารณาข้อเสนอของกษัตริย์ หรือ เอเฟอร์
    ในเรื่องสงครามและการสืบตำแหน่งกษัตริย์
4. เอเฟอร์  (Ephors) เมีจำนวน 5 คนทำหน้าที่รักษาสิทธิ์ของประชาชน และการดูแลปฏิบัติงานของ  
    กษัตริย์มีความสำคัญที่สุดในการปกครอง  โดยอยู่ดำรงตำแหน่งได้ 1 ปี และสามารถเข้ารับเลือก
    ได้อีกโดยไม่มีกำหนด


สำหรับสปาร์ตานั้นเป็นรัฐที่มีความเคร่งครัดในการปกครองแบบทหารมาก โดยพลเมืองทุกคนนั้นถือว่าเป็นสมบัติของรัฐ  ในขณะที่รัฐอื่นๆ นั้นจะปกครองรูปแบบประชาธิปไตย จึงทำให้เมืองนี้ไม่ได้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับรัฐอื่นๆ จึงไม่มีความเจริญในด้านศิลปะ หรือ ในด้านอื่นๆ เลยนอกจากด้านทหาร


นี่เป็นข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่ค้นหามาได้ หวังว่าทุกคนคงจะชมหนังเรื่องนี้ได้มีอรรถรสมากยิ่งขึ้นนะคะ
 

วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556


โกเบ็คลิ  เทเป  (Göbekli Tepe)




               เป็นชื่อเนินที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Şanlıurfa  (เดิมชื่อ Urfa / Edessa)ในปี ค.ศ 1964 มีการสำรวจโดยมหาวิทยาลัยอิสตันบูและชิคาโก เนื่องจากว่าลักษณะของยอดเขาดูไม่น่าจะเกิดจากธรรมชาติ  โดยแต่เดิมที่นักสำรวจคาดการว่าอาจเป็นสุสานโบราณของชาว byzantine  เพราะมีแผ่นหินลักษณะเหมือนเครื่องหมายของหลุมฝั่งศพ ซึ่งจากการตรวจสอบอายุโดยใช้วิธีคาร์บอนเดทติงให้ผลว่า โกเบ็คลิ เทเป มีอายุราว 12000 ปี  หรือ อาจจะสร้างขึ้นในช่วงปี 10000 - 9000 ปี จัดว่าเป็นสิ่งก่อสร้างโดยฝีมือของคนของคนยุคหินกลาง  ( โดยเค้าจะแบ่งเป็น 3 ช่วงสำหรับยุคหิน คือ 1. ยุคหินเก่า 1,700,000-10,000 ปีก่อนปัจจุบัน 2. ยุคหินกลาง ยุคหินกลาง  10,000-5,000 ปี  และ 3 ยุคหินใหม่  5,000-2,000 ปี   )  ซึ่งผู้คนในยุคนี้เริ่มรู้จักทำเครื่องมือหินให้ปราณีตและรู้จักการทำเครื่องปั้นดินเผาแล้ว
การขุดสำรวจ โกเบ็คลิ  เทเปhttp://hist105-2010fall.blogspot.com

KLAUS SCHMIDT


                ในปี คศ  1994   นักโบราณคดี นำทีมโดย KLAUS SCHMIDT นักโบราณคดีชาวเยอรมัน  ได้ทำการสำรวจที่แห่งนี้และพบว่ามันไม่ใช่สุสานโบราณอย่างที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก เพราะหลังจากที่มีการขุดก็พบว่าลักษณะของที่แห่งนี้เป็นรูปวงแหวนอาคารทรงกลมที่มีกำแพล้อมวงเป็นวงซ้อนๆ กันหลายวง  แต่ละอาคารมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10-30 เมตรและมีแผนฝังเหมือนกันคือเสารูปตัว T ปักเรียงเป็นวงกลมในแตละชั้นเสามีความสูง 4 เมตร ปักห่างในระยะเท่าๆกันตามผนังอาคารโดยเอียงข้างเข้าด้านใน จำนวนมากที่สุดคือ 8 ต้นในแต่ละวงโดยมีที่นั่งยาว ติดผนังระหว่างเสาแต่ละต้น

ภาพแสดงการก่อสร้าง
 http://science.nationalgeographic.com

ภาพแสดงวิธีการก่อสร้าง
ที่มา http://www.bermudaquest.com/




         ภายในอาคารชั้นในสุดมีเสาหินกลางห้องสองต้นลักษณะเดียวกันกับเสาด้านนอกแต่ใหญ๋กว่า
สูง 6 เมตร โดยการขุดค้นที่ผ่านมาพบอาคาร 4 อาคาร  แต่โดยการสำรวจโดยเรดาห์พบทั้งสิ้น
ประมาณ 20 อาคาร ( คาดว่าน่าจะขุดค้นกันไปอีกหลายปีเลยทีเดียว สำหรับสถานที่แห่งนี้) 
เสาหินรูปตัวที  ทำมาจากหินปุนตกผลึก โดยพบเหมืองที่ห่างไปประมาณ 100 เมตร ที่เค้ารู้ว่า
เสามาจากเหมืองแห่งนี้เพราะว่ายังพบเสาทียังไม่เสร็จ    สำหรับที่นี้ต้องขอบอกว่า สร้างความ
มหัศจรรย์ให้กับผู้ที่ค้นพบอย่างมาก เพราะต้องเข้าใจว่าในยุคนั้นมนุษย์มีเครืองมือที่ทำมาจากหิน
เท่านั้น กว่าจะตัดทำเสาเป็นรูปตัว T หรือแกะสลักได้ ไม่ใช่เรืองง่ายๆ เลย  โดยเค้าคาดการณ์กันว่าอาจจะต้องอาศัยแรงงาน อย่างน้อย 500 คนและมีจุดมุ่งหมาย โดยชมิดท์ เชื่อว่าที่นี่อาจจะเป็นที่ทำพิธี
เกียวกับความตาย แม้ว่าการขุดค้นยังไม่พบศพที่ถูกฝังก็ตาม โดยเค้าเชื่อว่าการสลักรูปสัตว์ที่เสารูป
ตัว T ก็เพือปกป้องวิญญาณของคนตาย  และที่นี่อาจจะเป็นทีชุมนุมเฉลิมฉลอง โดยเค้าคาดเดาจากที่นังติดผนัง นอกจากนี้ยังค้นพบกระดูกสัตว์ป่าจำนวนมาก โดยกระดูกที่พบแตก คล้ายกับการถูกทุบเพื่อนำไขกระดูก แต่อย่างไรก็ตามไม่ค้นพบอุปกรณ์ในการทำอาหาร

ภาพการวางเรียงกันของเสารูปตัว T และม้านั่งติดผนัง
http://maxlab.ca

                 ที่นี่้ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดหาอาหารเลี้ยงผู้คนที่มีจำนวนมากได้  แน่นอนว่า การล่าสัตว์หรือการเก็บของป่าไม่เพียงพอกับความต้องการ ตรงนี้ถือว่ามีความสำคัญเพราะจากเดิมที่มีความเชือกันว่าการรวมกลุ่มกัน  ลัทธิความเชื่อต่างๆ หรือการรู้จักสถาปัตยกรรม นั้นจะต้องเกิดภายหลังจากการที่มนุษย์รู้จักการเพาะปลูก ล่าสัตว์เสียก่อน ( คือมนุษย์ต้องมีปัจจัยขั้นพื้นฐานคือกินอิ่มก่อนนั่นแหละ  แต่อิ่มมากไปก็อยากนอน ออกแนวขี้เกียจละเรา ^^!! ) ตรงนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านความเชื่อในการพัฒนาของสังคมมนุษย์ เพราะที่นี้ได้แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ได้มีการรวมกลุ่มกันและมีระบบจัดการที่ดี ทำให้สร้างถาวรสถานที่ที่ยิ่งใหญ่อย่าง โกเบ็คลิ เทเปได้

เสาหินรูปตัว T ที่มีการแกะสลักรูปสัตว์ต่างๆ
http://hist105-2010fall.blogspot.com

เสาหินตัว T ที่มีการแกะสลักรูปสัตว์
http://hist105-2010fall.blogspot.com
               ชมิดคาดว่าที่นี่อาจจะเป็นลัทธิที่นับถือผีสางเทวดา โดยมีหมอผีเป็นผู้เชื่อมโยงกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ทั้งอาจจะเป็นต้นแบบของลัทธิศาสนาในเมโสโปเตเมียในการต่อมา แต่ก็มีผู้เสนอในแนวคิดอื่นเช่น อาจจะเป็นลัทธิบูชาสัตว์ร้าย ต่างๆ ที่อยุ่ในงานแกะสลัก  และการบูชาเพื่อความอยู่รอดและความแน่นแฟ้นกันในชุมชน   อีกข้อสันนิษลานหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ว่ากันว่าที่แห่งนี้ อาจจะเป็นสวนอีเดน ในคัมภีร์ไบเบิ้ล  เพราะเชื่อกันว่า ดินแดนทีอุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่ในจุดบรรจบของแม่น้ำสี่สาย  น่าจะเป็นดินแดนรูปเสี้ยววงเดือนอันอุดมสมบุรณ์ระหว่างลุ่มน้ำไทกรีส - ยูเฟรติส อู่อารยธรรม ซึ่งบริเวณตะวันออกเฉียงใต้หรือเขตเมโสโปเตเมียมตอนบน ก็รวมอยู่ด้วย

                   ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไรสำหรับ โกเบ็คลิ เทเป ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ด้วยความมุ่งมั่น และศรัทธา ทำให้มนุษย์สามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ
           
          
แหล่งข้อมูล  หนังสือต่วยตูน ฉบับ453
                     http://en.wikipedia.org/wiki/G%C3%B6bekli_Tepe